
คำปฏิญาณของลูกเสือ
คำปฏิญาณของลูกเสือ เป็นคำมั่นสัญญาที่ลูกเสือให้ไว้แก่ผู้บังคับบัญชา ในขณะที่ยืนอยู่ต่อหน้าแถว หรือเนื่องในพิธีการ เป็นหลักสากลซึ่งลูกเสือทุกประเทศปฏิบัติเช่นเดียวกันหมด ลูกเสือจะเป็นพลเมืองดีของชาติบ้านเมืองได้ โดยอาศัยหลักคำปฏิญาณเป็นอุดมการณ์นำไปปฏิบัติในชีวิต
คำปฏิญาณของลูกเสือ เป็นถ้อยคำที่กล่าวออกมาด้วยความจริงใจ เพื่อเป็นหลักสำหรับให้ลูกเสือได้ยึดถือปฏิบัติในสิ่งที่ดีและถูกต้อง
คำปฏิญาณของลูกเสือ ไม่มีคำว่า “อย่า” หรือ “ต้อง” คือไม่มีการห้ามหรือบังคับแต่เป็นคำปฏิญาณหรือคำมั่นสัญญาที่ลูกเสือและผู้บังคับบัญชาได้กล่าวรับรองด้วยเกียรติของตนเอง และด้วยความสมัครใจ
คำปฏิญาณของลูกเสือมี ๓ ข้อ ในพิธีเข้าประจำกองหรือพิธีการทางลูกเสือ ลูกเสือต้องกล่าวคำปฏิญาณตน ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ
ความหมายของคำปฏิญาณ
ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
ชาติ หมายถึง กลุ่มชนที่มีความรู้สึกในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอย่างเดียวกัน หรืออยู่ในการปกครองของรัฐบาลเดียวกัน ดังนั้น ลูกเสือควรปฏิบัติดังต่อไปนี้ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี หมั่นศึกษาหาความรู้ใส่ตัว เคารพเชื่อฟัง ปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนพของรัฐบาล ไม่ประพฤติผิดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมและกฎหมายบ้านเมือง เป็นผู้ประกอบอาชีพสุจริต สร้างความก้าวหน้าแก่ชาติ เป็นผู้เสียสละ พลีเลือดเนื้อและชีวิต รับใช้ชาติด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ต่อสู้รักษาเอกราชของชาติไว้ในเมื่อมีศัตรูมารุกราน
ศาสนา เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งจิตใจแลสั่งสอนให้คนรู้ดีรู้ชอบ ละเว้นความชั่ว ไม่เบียดเบียนกัน ให้ประพฤติแต่ความดี และประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ ลูกเสือจึงต้องเคารพและปฏิบัติต่อศาสนาดังนี้ ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา ตามจารีตประเพณีที่ตนนับถือด้วยใจบริสุทธิ์ เคารพสักการะเชื่อฟัง และปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ โดยไม่แสดงอาการลบหลู่ศาสนาอื่น ละเว้นการประพฤติชั่ว กระทำแต่ความดี หาโอกาสทำบุญตักบาตร และเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาตามเวลาหรือโอกาสอันควรในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และในวันธรรมสวนะ (วันพระ)
พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขของชาติ ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก เป็นพระบรมราชนูปถัมภ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ทรงเป็นจอมทัพไทย และเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ลูกเสือต้องปฏิบัติดังนี้ ลูกเสือต้องถวายความเคารพสักการะต่อพระมหากษัตริย์และ พระบรมฉายาลักษ์ ไม่แสดงกิริยาวาจาอันเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น ไม่กระทำการใด ๆ ที่จะเป็นการกระทบกระเทือนเสื่อมเสียพระเกียรติคุณทั้งป้องกันมิให้ตนอื่นกระทำเช่นนั้นด้วย ยอมเสียสละเลือดเนื้อถวายเป็นราชพลีได้
ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ลูกเสือเป็นผู้มีใจโอบอ้อมอารี มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ ต่อเพื่อนและต่อผู้อื่นเสมือนหนึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน ยอมเสียสละความสุขส่วนตัวบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีภัย โดยเฉพาะเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ที่อ่อนแอกว่า
ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ
คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็นข้อปฏิบัติของลูกเสือ ซึ่งเป็นหลักยึดเหนี่ยวให้ลูกเสือปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม กฎของลูกเสือ ๑๐ ข้อ เป็นหลักสากลที่ลูกเสือทุกประเทศปฏิบัติ กฎของลูกเสือเป็นอุดมการณ์ และแนวนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
เรื่องกฎของลูกเสือ
กฎของลูกเสือ
กฎหมายถึงข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ที่ถูกตั้งขึ้น เพื่อให้นำไปประพฤติปฏิบัติตามซึ่งเป็นการฝึกสร้างให้มีนิสัยที่ดี สมกับเป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป
คนเราทุกคนต้องอยู่รวมกันในสังคม และอยู่เป็นหมู่คณะตั้งแต่ระดับเล็ก คือ ครอบครัว จนถึงระดับใหญ่ คือประเทศชาติ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งที่จะต้องมีกฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับให้คนในสังคมนั้น ๆ ได้ยึดถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดถูกต้องและสม่ำเสมอ ถ้าทุกคนที่อยู่ร่วมกันได้ปฏิบัติตามระเบียบวินัยที่สังคมวางไว้ ก็จะนำมาซึ่งความสงบสุข ความเจริญก้าวหน้า ความมั่นคง และความปลอดภัย
ลูกเสือก็เช่นเดียวกันจะต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบที่ถูกตั้งขึ้น เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นคนดี มีระเบียบวินัย ด้วยเหตุผลดังกล่าว คณะลูกเสือแห่งชาติจึงได้กำหนดกฎของลูกเสือไว้ ๑๐ ข้อ เพื่อให้ลูกเสือยึดถือและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง
กฎของลูกเสือ ๑๐ ข้อ
กฎข้อที่ ๑ ลูกเสือมีเกียติเชื่อถือได้
ลูกเสือเป็นผู้ที่มีเกียรติ มีความจริงใจและเป็นที่ไว้วางใจของผู้อื่น เมื่อพูดหรือกล่าวสิ่งใดออกมาแล้วสามารถที่จะเชื่อถือได้และเป็นผู้ที่รักษาสัจจะ และปฏิบัติตามคำพูดเสมอ เมื่อได้รับมอบหมายสิ่งใดก็ต้องทำสิ่งนั้นให้เสร็จเรียบร้อยด้วยความตั้งใจจริง ให้สมกับคติพจน์ที่ว่า “เสียชีพอย่าเสียสัตย์”
กฎข้อที่ ๒ ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
ลูกเสือจะต้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อองค์พระมหากษัตริย์ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับความสามัคคีของคนในชาติ ส่งเสริมความเป็นเอกราชของชาติ ความจงรักภักดีจึงเป็นหน้าที่สำคัญของลูกเสือ ในฐานะที่เป็นพลเมืองดี และเป็นกำลังของชาติบ้านเมือง ยอมสละชีวิตเลือดเนื้อ เพื่อประเทศชาติได้เมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะต้องปกป้องสถาบันทั้ง ๓ นี้ให้ดำรงอยู่ตลอดไป นอกจากนี้ลูกเสือต้องมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ คือ รู้จักบุญคุณ และตอบแทนผู้มีพระคุณแก่ตน เช่น บิดา มารดา ครูอาจารย์ เป็นต้น
กฎข้อที่ ๓ ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
ลูกเสือต้องกระทำตนให้เป็นประโยชน์ เป็นผู้ที่มีความขยันขันแข็งในการงานและช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความจริงใจเมื่อมีโอกาส โดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น เช่น ช่วยเหลือให้ผู้อื่นพ้นทุกข์พ้นภัย ช่วยพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญหน้า ช่วยทำความสะอาดวัด ตลาด โรงเรียน สถานีอนามัย หรือทำหน้าที่เป็นผู้บริการให้ความสะดวกแก่คนทั่วไป ที่อาศัยอยู่ในชุมชนนั้น ๆ เป็นต้น
กฎข้อที่ ๔ ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
ลูกเสือเป็นเพื่อนกับคนทั่วไป และไม่เป็นศัตรูกับผู้ใด นอกจากนั้นลูกเสือยังเป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนทุกคนและถือว่าทุกคนเป็นเสมือนญาติสนิทโดยไม่คำนึงถึงประเทศ และเชื้อชาติ ศาสนา และชนชั้นวรรณะ เมื่อลูกเสือพบปะกันก็ทักทายกัน ให้ความช่วยเหลือกันฉันมิตร ถ้าพบปะผู้ใหญ่ก็ทักทายโดยการยกมือไหว้หรือทำความเคารพ
กฎข้อที่ ๕ ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
ลูกเสือต้องเป็นผู้ที่มีความสภาพเรียบร้อยในเรื่องการแต่งกาย ความประพฤติ ตลอดจนกิริยาวาจาท่าทางต่าง ๆ มีความอ่อนน้อมอ่อนโยน และมีสัมมาคารวะต่อบุคคลทั่วไป ไม่ยกตนข่มท่าน และที่สำคัญลูกเสือต้องเป็นผู้ที่มีความเกรงใจ ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของคนไทย
กฎข้อที่ ๖ ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ลูกเสือเป็นผู้ที่มีความโอบอ้อมอารี มีใจเมตตากรุณา รักสัตว์ สงสารสัตว์ ไม่รังแกหรือทรมานสัตว์ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเมื่อสัตว์ได้รับความลำบาก หรืออดอยากก็ควรช่วยเหลือ โดยการนำมาเลี้ยงดูหรือให้อาหารแก่สัตว์ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความเมตตากรุณาอย่างแท้จริง
กฎข้อที่ ๗ ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
ลูกเสือต้องอยู่ในโอวาทและเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา ครูอาจารย์ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพและปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของคนไทยที่ได้ปฏิบัติต่อเนื่องกันมา เพราะถือว่าผู้ใหญ่เป็นผู้ที่มีความรู้ และมีประสบการณ์ก่อนลูกเสืออาจเสนอความคิดหรือข้อคิดเห็นออกมาก็ได้ ถ้าเห็นว่าบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง เมื่อลูกเสือมีเหตุผลที่สมควรและสามารถชี้แจงให้เข้าใจได้
กฎข้อที่ ๘ ลูกเสือมีใจร่าเริงและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ลูกเสือต้องเป็นผู้ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนานร่าเริงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในความยากลำบากปานใดก็ตาม ลูกเสือต้องไม่แสดงอาการย่อท้อออกมาให้เห็น แต่จะต้องพยายามต่อสู้กับอุปสรรคและขจัดปัญหาต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไป
กฎข้อที่ ๙ ลูกเสือเป็นผู้มีความมัธยัสถ์
กเสือเป็นผู้ที่รู้จักประหยัดทรัพย์ รู้คุณค่าของเงิน รู้จักเก็บหอมรอมริบ ไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย โดยเปล่าประโยชน์ และไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน ที่สำคัญคือ เป็นผู้ที่รู้จักประมาณตนจึงจะทำให้ลูกเสือมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายและมีความสุข
กฎข้อที่ ๑๐ ลูกเสือประพฤติชอบด้วย กาย วาจา ใจ
ลูกเสือต้องเป็นผู้ที่กระทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ซึ่งประกอบด้วยกายสุจริต วาจาสุจริต และมีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่อาฆาตพยาบาทผู้อื่น เช่น ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการพูดคำหยาบ เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ ไม่ลักขโมยของผู้อื่น ไม่คิดปองร้าย เป็นต้น ลูกเสือจะต้องประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมและประเพณีที่ดีงาม มีความสะอาดต่อบาปและเกรงกลัวต่อความชั่ว มีสติเหนี่ยวรั้งไม่ยอมทำสิ่งผิด
ขอบคุณ : ไม่ปรากฎชื่อผู้เขียน
แหล่งที่มาที่มา : https://docs.google.com/